ชีวิตคือละคร ต่างกันตรงไม่มีโฆษณา

 
 
 
"จำเลย (ที่)รัก"
 
ชัยชนะ ที่สวยหรู  กำลังนำไปสู่การตอบโต้ที่สาสม
 
 
              วันนี้(๑๘ ก.พ.๕๑) ช่วงบ่าย  ผมเดินทางไกล เกือบพัน กม. จาก จว.สกลนคร  เพื่อมาราชการที่ศาลอาญา ซึ่งในครั้งนี้ ต่างไปจากการมาทำหน้าที่ตามปกติโดย ปกติ ผมจะมาติดตามบริการหลังการขาย (มองในมุมของธุรกิจ) หลังการจับกุม ลูกค้า (จำเลย)ของผม ส่วนใหญ่ เป็นผู้จำหน่าย ยาเสพติด ซึ่ง ได้ติดตามต่อเนื่องมา  อันเป็นหน้าที่ของผม ตามกระบวนการยุติธรรม ในทุกคดี ผม จะมีฐานะเป็นผู้กล่าวหา เมื่อคดีเข้าสู่ศาล ฐานะ ของผม จะเป็นพยานฝ่ายโจทก์ 
               แต่ในวันนี้ ผม มาในฐานะ จำเลย   ฐานะที่ถูกยัดเยียดโดยคนกลุ่มหนึ่ง  ที่ยืมมือกระบวนการทางศาล ใช้เป็นเครื่องมือ   ได้ร้องต่อศาล โดยกล่าวหา ว่าผมทำความผิด   โดยเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ หลายข้อหา หลายฐานความผิด ด้วยกัน ที่หลักๆ ก็ มาตารา ๑๕๗ ป.อาญา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ บุกรุก,กรรโชกฯลฯและอีกหลายข้อกล่าวหา ผมไม่ได้ใส่ใจ  เรื่องนี้มันเกิดมานานแล้ว  ในขณะนี้  การดำเนินคดีต่างๆ สิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากศาลฎีกา มีคำสั่ง พิพากษา จึงถือโอกาสนี้ นำเรื่องที่เกิดขึ้น  มันเป็นเพียงคดี เล็กๆ มโนสาเร่  ไม่มีผลกระทบ ส่งผล ดีหรือร้าย กับสังคม  แต่ เรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ มัน กดดัน บีบคั้น  ดวงใจ น้อยๆ ดวงนึง ของ ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยความซื่อสัตย์จริต  คนนึง จนมีหลายครั้ง มีความคิด ชั่วๆ แวบขึ้นมา ทำดี แล้ว โดนรังแก  งั้นก็ทำชั่วๆ ซะเลยดีมั้ย   โชคดีที่เป็น แค่ความคิด ในยามที่ท้อไม่ละเมิดลิขสิทธิ์(ท้อแท้) ที่ไม่ได้กระทำ  จนวันนี้ เป็นการพิสูจน์ หลักการที่ว่า"สุจริต เป็นศาสตร์ ป้องกันภัย" คำสั่งสอน ของท่าน พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์  ชุติวุฒื เมื่อครั้งร่วมงานกับท่าน ขณะนั้นท่านเป็น สว.กก.สส.บก.น.๑ หัวหน้าชุด พร่ำสอน ยังคงเป็น ทฤษฎี ที่จะพิสูจน์ ยังงัยก็ยัง ถูกต้องเป็นจริง
 
          ย้อนกลับไป ช่วง ปี พ.ศ.๒๕๔๔  เมื่อครั้ง พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ยังเป็นแม่ทัพ นักสืบ กก.สส.บก.น. ๑ ชักธงรบกับเหล่าโจรในเมืองกรุง อย่างโชกโชน  พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ยังคงรั้งตำแหน่ง รอง ผกก.ฯ  รอง สว.ยังหนาแน่น ไปด้วย ตำรวจหนุ่มๆ ไฟแรง ดุดัน ขณะนั้น ผมยังคงมียศ แค่ ร.ต.ท. ยิ่งมีเพื่อนรัก นักสืบ ผู้ประสานสิบทิศ ร.ต.ท.พัฒนภัคร อินทรียานนท์ ผู้กองพัฒ  ของลูกน้อง หรือ ไอ้ย้อย ของเพื่อนๆ  อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ หากเพื่อนไม่โชคร้าย ประสบอุบัติเหตุ เมื่อต้นปี ๒๕๕๐ ผมมั่นเชื่อแน่ว่า เพื่อนผมคนนี้ ต้องอยู่ในตำ แหน่ง สว.หลัก ในบช.น. อย่างแน่นอน  นอกนี้ยังมี สว.ต้อม,สว.อัครเดช,สว.คำนึง,สว.แปะ หรือ จตุรงค์ ยะคะเสม  อีกทั้งน่าจะมี สว.ชิตสันต์ ,สว.เตี้ย นรต.๕๑ โดยผมเนี่แหละเป็น รองสารวัตร ในชุดนั้น ที่มีโอกาส ดูดดื่ม การเป็น นายตำรวจสัญญาบัตร ระดับ ต่ำที่สุด ได้ยาวนานที่สุด(น่าภูมิใจมั้ยเนี่ย)
 
 
 
             บ่ายๆวันนั้น วันนึงในปี พ.ศ.๒๕๔๔  มีทนายความ ของบริษัท xxxxxจำกัด  ซึ่งผมไม่เคยรู้จักมาก่อน  ได้มาร้องขอ กับทาง กก. ว่า ตนได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้องตามกฎหมาย และบริษัท ฯ ให้มาตรวจสอบ การละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นเกมส์ ออนไลน์ โดยมีพื้นที่เป้าหมาย เป็นร้านที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต และเกมส์คอมพิวเตอร์ ในเขต สน.พญาไท ซึ่งทาง ผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการตามลำดับชั้นลงมา ให้จัด เจ้าหน้าที่ ดำเนินการ ตามที่ผู้ร้องขอ โดยกำชับให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ และกฎหมาย 
 
            หลังจากที่มีการประชุม แจ้งวัตถุประสงค์ การดำเนินการ แล้ว จึงได้แบ่งกำลังเป็นชุด ๆปฏิบัตการเฉพาะกิจนี้  ๓ ชุด โดยออกดำเนินการ ตรวจสอบ  ร่วมกับทนายความ ผลการดำเนินการ พบว่ามีร้านที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต ที่ละเมิด ลิขสิทธิ์ ของบริษัท ดังกล่าว  ๒ ร้าน  ในระหว่างที่กำลังเนินการ จัดทำเอกสาร การตรวจยึดคอมพิวเตอร์ และบันทึกจับกุม ตามที่ผู้เสียหายในคดีนี้  ชี้และยืนยันให้ดำเนินคดี จำนวน  ๒ รายนั้น  รายนึง ได้ส่งตัวผู้ถูกจับกุม พร้อม ของกลาง ส่ง พงส.สน.พญาไท ดำเนินคดีตามขั้นตอน กฎหมาย 
           แต่อีกรายนึง เจ้าของร้าน  มีการวิ่งเต้น ดิ้นรน  ไม่ยินยอม ที่จะให้ผู้เสียหาย ดำเนินคดี  โดยคดีความผิด นี้ เป็นความผิด อันยอมความได้  ซึ่งหาก ผู้เสียหาย ซึ่งในคดีนี้คือ บริษัทฯ ที่ได้มอบอำนาจ ให้ทนายความ ตามเอกสารการมอบอำนาจ ไม่ชี้ยืนยัน   ให้เจ้าหน้าที่จับกุม หรือ พงส.ดำเนินคดี แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีสิทธิ์ ใดๆที่จะ ดำเนินการใดๆกับ ผู้ที่ละเมิด ลิขสิทธิ์ นั้นได้   เจ้าของร้าน ได้มีการวิ่งเต้น ต่อสาย ให้ผม ซึ่งเป็น คนจัดทำเอกสาร (เนื่องจาก เคยเป็นพนักงานสอบสวน มาก่อน) คุยกับ นายตำรวจ ยศใหญ่ๆ (จำได้นะว่าใคร แต่ช่างมัน)  ผมก็ชีแจงไปตามข้อเท็จจริงว่า  ตำรวจ หรือตัวผม ไม่ประสงค์ หรือยินดียินร้าย กับการจับหรือ ไม่จับ ในกรณีนี้  ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ บริษัทฯ ว่าจะดำเนินการหรือไม่ดำเนินการอย่างไร แนะนำให้เค้า(ใครก็ไม่รู้จัก) ไปตกลงกับทนายความเอง 
          สุดท้าย ท้ายสุด กรณีนี้ เจ้าของร้านคอมที่ละเมิดลิขสิทธิ์  ตกลงที่จะเสียค่าปรับ ให้กับบริษัทฯ จำนวนหนึ่ง ในกรณีที่ได้ทำผิดครั้งนี้  ผมได้ลงลายมือชื่อเป็นพยาน ในการตกลงครั้งนี้ และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังให้ลูกน้อง ช่วยยก อุปกรณ์คอมที่ยึดมาไปส่งคืนที่ร้าน 
 
          ต่อมาผมรับทราบว่ามีการฟ้องร้อง ระหว่าง บริษัทฯ กับ ทางร้านเกมส์ ซึ่งก็พอทราบมาว่า ทางร้านเกมส์ มีพวกมาก ส่วนใหญ่ มีธุรกิจออกทางสีเทาๆ ถึงดำๆ  พวกตู้ม้า บ่อน(เฉพาะคนกลุ่มนี้) ซึ่งผม ไมได้สนใจ 
 
          แต่ต่อมา ผมต้องสนใจแล้วละ เพราะมีหมายศาลมา แจ้งให้ผมทราบว่าผมถูก ฟ้องไปด้วย  ผม ก็ งง ๆๆ เพราะ ตำรวจไปทำงานครั้งนี้ ๒๐ กว่า คน แต่เลือกฟ้องผม   ซึ่งต่อมาไม่นานศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องผม  ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมาย
เนื่องจากผม ไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าอำนาจหน้าที่
 
           แต่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ลดละ  ซึ่งก็เป็นไปตามสิทธิ์ ของเขา ในชั้น อุธรณ์ โจทก์  ยื่นอุธรณ์ ไม่ทันกำหนด ๓๐ วันหลังคำพิพากษายกฟ้องของศาลชั้นต้น  มีการพยายาม ยื่นขอฏีกาคำสั่ง ยืดเยื้อ เรื่อยมา นัดพิจารณา ฟังคำสั่ง นับครั้งไม่ถ้วน จนเวลาล่วงเลย มาเกือบ ๖ ปี
 
 
           ผมต้องเดินทางไปศาล นับครั้งไม่ถ้วน  ในฐานะจำเลย  ที่น่าหงุดหงิด  ก็ทางฝ่ายโจทก์ ไม่เคยใส่ใจ ผิดนัดเรื่อยมา
แต่ผม ไม่อาจหลีกเลี่ยง หมายนัดของศาลได้  เลยเพราะ จะถูกออกหมายจับ  เป็นเรื่องรบกวน จิตใจของผม ตลอดเวลาที่ผ่านมา
จนวันนี้  จบสักที ต่อไปนี้ผม จะไม่มีภาระหน้าที่เป็นจำเลย  ในคดีนี้อีกต่อไป 
 
 
          ในที่สุด  การเป็นจำเลยในคดีนี้ของผม  ได้อวสาน หรือ จบบริบูรณ์ พร้อมกับ ละครเรื่อง จำเลยรัก ทางช่อง ๓ ในคืนวันนี้เช่นกัน  ในละคร เมื่อจบ คือ จบ  สำหรับผม เมื่อฐานะการเป็นจำเลยของผม จบลงพร้อมกับการเกิดใหม่ในฐานะโจทก์ 
          ตาต่อตา ฟันต่อฟัน   ผมจะขอให้สิทธิ์ เดียวกัน  จะค้าความ กันดู สักที ในเมื่อ คุณติดใจกับผม  ผม ก็ติดใจ คุณเหมือนกัน 
 
          วันข้างหน้า โจทก์ในดคีเดิม  จะต้องกลายเป็น จำเลย ซะบ้างละคราวนี้
 
          นึกๆ แล้ว เมื่อยล้า หัวใจ นี่ขนาด เรา ไม่ได้ทำผิด อะไร ไม่ได้ เกเร เหมือน กับตำรวจชุดต่างๆที่กำลังโด่งดังตอนนี้  ผมยังเป็นจำเลยที่  ที่โดดเดี่ยว  เคว้งคว้าง หัวเดียว กระเทียมลีป  วงการตำรวจ  ยังคงไม่รักกันเหมือนเดิม  แต่ช่างมันเถอะแค่นี้  ทนได้
 
 
มาคอยจับตา จำเลย ในฉากต่อไปดีกว่า
 
 
        รับรองเลยว่า  คงไม่จบแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง  แบบ  จำเลยรัก  ไม่เชื่อ คอยดู  
 
 
ยิงฟัน
 
 
             
 
         
 
 
 
        
 
 
 
 
 
 
 
 
 

Leave a comment